น้ำผึ้ง (Honey)นั้นเรียกได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะขนานแท้เลยทีเดียว โดยชาวจีนนิยมเรียกน้ำผึ้งนี้ว่า เฟิงมี่ หรือพังบิ๊ก เป็นต้น เป็นอาหารที่มีรสชาติหวาน โดยน้ำผึ้งนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนปัจจุบัน และเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ว่าเป็นอาหารอันทรงคุณค่ามากที่สุดชนิดหนึ่ง
ลักษณะทั่วไปของน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งนั้นจะมีลักษณะเป็นน้ำข้น
ๆ ใส ๆ ไม่ขุ่นทึบ โดยมีสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาล
และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะของเกสรดอกไม้ที่บรรดาผึ้งไปดูดความหวานเหล่านี้มา
เกิดจากความเพียงพยายามของแมลงตัวเล็กๆ
อย่างผึ้ง
ที่ในทุกวันจะคอยเก็บน้ำหวานที่อยู่ในดอกไม้นานาพันธุ์มาผ่านกระบวนการต่างๆ
ของตัวมันเอง
แล้วนำไปเก็บสะสมไว้ในรวงซึ่งเป็นรังของผึ้ง
โดยน้ำผึ้งที่ดีนั้นจะต้องไม่ขมเฝื่อน
หรือมีการไขผึ้้ง รวมทั้งซากเศษตัวผึ้ง
และสิ่งปลอมปนใดๆ โดยเฉพาะน้ำผึ้งเดือนห้า
เรียกว่าเป็นน้ำผึ้งที่ดีที่สุด
เพราะเป็นช่วงที่มีฝนตกน้อยทำให้ไม่มีน้ำไหลเข้าไปเจือปนในรวงผึ้ง
และเป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังเบ่งบาน
ทำให้น้ำผึ้งมีรสชาติอร่อย
และไม่มีสิ่งแปลกปลอมใด ๆ
เข้าไปเจือปนนั่นเอง
น้ำผึ้ง
ประโยชน์และสรรพคุณของน้ำผึ้ง
–
ช่วยขับสารพิษตกค้างต่าง ๆ
ออกจากร่างกาย
–
ช่วยสมานแผลให้ผิวเรียบเนียน
–
ช่วยบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ
ได้ดี
–
ช่วยบำรุงกระเพาะอาหารให้ทำงานได้อย่างปกติ
–
ช่วยให้ปอดแข็งแรงและชุ่มชื้น
–
ช่วยบรรเทาอาการไอแห้ง ๆ แบบไม่มีเสมหะ
และอาการไอแบบเรื้อรัง
–
ช่วยให้มีผิวพรรณดี
ทำให้ผิวอ่อนนุ่มชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้าน
และไม่แก่ก่อนวัย
–
ช่วยบำรุงเลือดให้ไหลเวียนดีในร่างกาย
–
ช่วยบำรุงสมองให้ทำงานได้ดี
–
ช่วยให้นอนหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น
–
สำหรับน้ำผึ้งเก่าจะช่วยรักษาอาการท้องเสียได้
–
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ดีในร่างกาย
น้ำผึ้งเกิดจากน้ำหวานที่ผึ้งดูดมาจากเกสรดอกไม้
วิธีการนำน้ำผึ้งมารับประทาน
–
ให้นำน้ำผึ้งใหม่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
พร้อมกับขิงคั้นน้ำให้ได้ครึ่งถ้วย
แล้วเติมเกลือลงไปเล็กน้อย
ต้มดื่มช่วยแก้อาการท้องอืดหรือท้องเฟ้อได้ดี
–
ให้นำน้ำผึ้งใหม่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
มาดื่มจะช่วยแก้อาการท้องผูกได้ในคนทุกเพศวัย
–
ให้นำน้ำผึ้งเก่าประมาณ 1 – 2
ช้อนโต๊ะ มาผสมกับเกลือครึ่งช้อนชา
และน้ำอุ่น 1 แก้ว
ดื่มแก้อาการอ่อนเพลียจากอาการท้องเสียแบบรุนแรงได้ดีมากๆ
–
ให้นำน้ำผึ้ง 1 ส่วน มาผสมกับน้ำเปล่า 9
ส่วน ใช้สำหรับล้างบาดแผลได้ดี
–
ให้นำน้ำผึ้งมาทาบริเวณแผลไฟไหม้
หรือน้ำร้อนลวก
จะทำให้บาดแผลเหล่านี้หายได้เร็วขึ้น
–
ให้นำน้ำผึ้งประมาณ 2 – 3 ช้อนโต๊ะ
มาดื่มจะช่วยให้อาการปวดท้องจากโรคกระเพาะดีขึ้น
–
ใช้เป็นส่วนผสมในยาต่าง ๆ
ทำให้รสชาติยาดีขึ้น รับประทานได้ง่ายขึ้น
และไม่มีอันตรายต่อร่างกาย
น้ำผึ้งสามารถนำมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ
ข้อห้ามในการรับประทานน้ำผึ้ง
–
ไม่ควรรับประทานน้ำผึ้งพร้อมกับกุยช่าย
หรือเต้าหู้
เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องเสียขึ้นได้
–
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำผึ้งพร้อมกับหอมและกระเทียม
เพราะจะทำให้คุณค่าในน้ำผึ้งลดน้อยลง
–
ห้ามรับประทานน้ำผึ้งต่อวันมากเกินกว่า 50
กรัม
–
ผู้ที่มีอาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวควรหลีกเลี่ยง
–
ผู้ที่อาเจียนบ่อย
หรืออยู่ในภาวะอาหารไม่ย่อยควรหลีกเลี่ยง
–
ผู้ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานอยู่
หรือเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ
ห้ามรับประทานอย่างเด็ดขาด
–
การเลือกน้ำผึ้งมาดื่มจำเป็นต้องทราบถึงแหล่งที่มา
เพราะอาจได้มาจากน้ำหวานของดอกไม้ที่มีพิษ
นอกจากนี้น้ำผึ้งยังถือว่าเป็น 1 ใน 50 สุดยอดสมุนไพรจีนอีกด้วย
แหล่งที่มา:https://www.เกร็ดความรู้.net/